“วิธีเลือกสกรูให้เหมาะกับความหนาแป”

     รู้หรือไม่ โครงสร้างหลังคาเหล็กที่ใช้ในปัจจุบัน มีการพัฒนาขนาดและความหนาที่บางลงโดยมีความหนาต่างกันถึง 3 ระดับ บริษัท อินโน-คอนส์ จึงได้ทำการพัฒนา #สกรูปลายสว่าน ที่เหมาะกับโครงสร้างหลังคาเหล็กแต่ละความหนา เพื่อให้สามารถเจาะยึดโครงสร้างเหล็กได้อย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการรั่วซึม ไม่ทำให้สกรูหลวม และเพื่อให้อยู่คู่หลังคาเหล็กได้ยาวนานตลอดอายุการใช้งาน

      โดยเดิมทีหลังคาเหล็กเป็นหลังคาที่พัฒนาเพื่อการใช้งานในกลุ่มงานอุตสาหกรรม โดยโครงสร้างหลังคาที่ทำมาเพื่อรองรับหลังคาเหล็กนั้น จะใช้เหล็กรูปพรรณซึ่งมีความหนาและน้ำหนักสูง เพื่อให้สามารถรับขนาดและน้ำหนักของแผ่นหลังคาได้มาก โดยจะใช้เหล็กรูปพรรณที่มีความหนาตั้งแต่ 4 – 6.5 มม. จำเป็นต้องใช้สกรูที่มีความสามารถในการเจาะเหล็กหนา จึงเหมาะกับสกรูรุ่น Teks 48 ซึ่งสามารถเจาะเหล็กได้ความหนาตั้งแต่ 2.2 – 6.5 มม. เจาะได้รวดเร็วเบามือ และยึดกับแปเหล็กหนาได้แน่นไม่โยกคลอน

      ในเวลาต่อมา ได้มีการพัฒนาเหล็กกัลวาไนซ์ซึ่งมีการชุบสังกะสีในการผลิต ทำให้ตัวเหล็กมีความหนาที่ลดลง แต่มีความแข็งแรงและรับน้ำหนักได้ดีไม่น้อยกว่าเหล็กรูปพรรณ โดยปัจจุบันเป็นที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย เพราะมีความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน โดยเหล็กกัลวาไนซ์จะมีความหนาตั้งแต่ 1.2 – 2.5 มม. ทำให้สกรูทั่วไปแบบเดิมในท้องตลาดไม่สามารถยึดแปปเหล็กบางขนาดนี้ได้แน่น จึงมีการพัฒนาสกรู STL-1 ที่สามารถยึดแปกัลวาไนซ์ที่มีความหนา 1.2-2.1 มม. ได้แน่น ไม่หลวม ไม่โยกคลอน

       ปัจจุบัน หลังคาเหล็กไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในระดับอุตสาหกรรม แต่ยังเข้ามามีบทบาทในระดับอาคารบ้านเรือนอีกด้วย ทำให้มีการพัฒนาแปสำเร็จ ซึ่งเป็นเหล็กบางขึ้นรูปตามหลักสถาปัตยกรรม มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่สามารถรับน้ำหนักได้ดี เหมาะกับการใช้งานทั้งในระดับอาคารบ้านเรือนและโรงงานขนาดเล็ก โดยแปสำเร็จจะมีความหนาตั้งแต่ 0.4 – 1 มม. ซึ่งบางกว่าเหล็กทั่วไปเป็นอย่างมาก สกรูที่ใช้งานกับแปสำเร็จจึงต้องออกแบบเกลียวที่มีขนาดเล็กเพื่อยึดจับแปได้แน่น โดยสกรู V-Teks มีการออกแบบหัวเจาะและเกลียวพิเศษ เพื่อใช้งานกับแปเหล็กบางที่มีความหนาตั้งแต่ 0.4 – 1.2 มม. ได้แน่นกว่าสกรูทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด เพื่อความแข็งแรง และทนทานของโครงสร้างหลังคา
โดยสามารถดูตารางเปรียบเทียบการเลือกใช้งานสกรูแต่ละขนาดได้ตามรูปภาพด้านล่างนี้เลยครับ